Valentine Strike Back

 


               พรุ่งนี้14กุมภาวนมาอีกครั้งมันคงเป็นวันอันแสนสุขของใครหลายๆคน แต่ไม่ใช่สำหรับจูน สาวโสดประจำสำนักงาน ที่รู้ดีว่าพรุ่งนี้เธอจะต้องเจอกับอะไร ในวันที่หลายคนในที่ทำงานจะต้องรีบเร่งทำงาน เพื่อที่จะได้มีเวลาไปอยู่กับคนรัก ยิ่งคู่ที่คบกันเองในที่ทำงานยิ่งแล้วใหญ่ วันอื่นไม่เคยจะควงกันเข้ามาทำงานเลย แต่วาเลนไทน์ต้องควงแขนเหมือนกับพึ่งคบกันเมื่อวาน และที่หนักไปกว่านั้นคืองานที่จะได้รับฝากให้ดูแลมากกว่าปกติ เข้ามาปีนี้น่าจะเหลือเธอเป็นคนสุดท้ายแล้วในห้องที่ยังโสดอยู่ มันคงจะหนักกว่าทุกปีจูนเข้าใจดี

               และแล้ววันพรุ่งนี้มันก็มาถึง ทุกคนมาทำงานในบรรยากาศที่ไม่มีใครสนใจใครนอกจากงานและคู่ของตัวเอง รีบทำงานของตัวเองให้เสร็จทันเวลาเลิกงาน ไม่มีใครจองโอทีวันนี้เลยสักคน

               แต่มันเป็นชะตากรรมที่จูนไม่เคยหลีกเลี่ยงได้ ด้วยความเคยชินของเพื่อนร่วมงานที่นิสัยไม่ค่อยดีของเธอ จะมีก็แต่พี่ตาลคู่หูตลอดการที่นั่งอยู่ห้องถัดไป ที่รับหน้าที่นั้นแทนจูนในปีนี้ พี่ตาลเป็นคนที่เก่งและใจดีมากสำหรับจูน คอยช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระในหลายๆครั้ง ซึ่งมันน่าจะเป็นเหตผลเดียวที่ทำให้จูนยังทำงานที่นี่อยู่ ถึงแม้ว่าจะบ่นเรื่องย้ายงานกันหลายๆครั้งแต่นั่นแหละคนที่อยู่นานที่สุดมักจะเป็นคนที่บ่นบ่อยที่สุดเสมอ และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็ใกล้เข้ามา เวลาล่วงเข้าใกล้บ่ายสามโมงทุกคนเตรียมจะย้ายตัวเองออกจากที่นี่ ทุกคนก็ทำเหมือนที่เคยคือเริ่มฝากงานทั้งหมดมาที่จูน ทั้งทางอีเมลล์ หรือทางไลน์

               เริ่มจากเอหนุ่มร้อนแรงประจำบริษัทที่ผ่านมาสามวาเลนไทน์ ก็มีแฟนตลาด แต่ไม่เคยซ้ำหน้าเลยเสียสักปี ส่งเมลล์มาที่จูนฝากให้เธอติดต่อไปยังลูกค้ารายสำคัญตอน6โมงเย็น ด้วยความความที่ใจความไม่ต่างจากทุกปี “จูนพี่ฝากโทรหาคุณสมศักดิ์ตอน18นาฬิกาด้วยนะ รายระเอียดพี่ส่งให้ท่านเรียบร้อยแล้ว วันนี้มันสำคัญกับพี่จริงจูนคงเข้าใจ”เป็นข้อความที่พิมพ์มาโดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วจูนจะเข้าใจไหม

               และขาประจำอีกคนก็คือจ๋า ที่มีงานต้องส่งขึ้นรายงานต่อผู้บริหารภายในสามทุ่ม “พี่จูนจ๋าฝากลงข้อมูลส่วนที่เหลือหน่อยนะคะ”ข้อความง่ายๆ ที่โดยปกติแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเสียด้วยซ้ำ มันก็แค่งานง่ายๆ ถ้าจ๋าจะทำให้มันเสร็จก่อนเลิกงานก็ยังสามารถทำได้ แต่เวลามันดูน้อยลงไปสำหรับคนที่ต้องรีบไปพบคนรักที่เริ่มคบกันเมื่อไม่นานมานี้ เธอไม่อยากจะผิดนัด

               เวลายิ่งเข้าใกล้4โมง โดยความไม่เป็นใจของสถานการณ์ในวันนี้ทำให้ใครหลายๆคนไม่สามารถออกจากที่ทำงานตามเวลาที่ต้องการได้ จนใครหลายๆเริ่มหัวเสีย นิสัยเดิมก็เริ่มแสดงออกมา นั่นก็คือฝากให้จูนช่วยดูแล เหมือนกับทุกๆปีที่ผ่านมา เวลาประมาณสี่โมงครึ่งไฟทั้งสำนักงานก็แทบจะมืดลงทุกดวง เหลือแค่ช่องของจูนและพี่ตาลที่อยู่ห้องข้างๆ ซึ่งก็เป็นภาพที่เกิดขึ้นประจำทุกปี

               เอขับรถไปรับแฟน เพื่อไปยังชายหาดใกล้ๆเพื่อสร้างบรรยากาศสุดโรมแมนติก ในวันสำคัญทางความรักแบบนี้ ส่วนจ๋าก็ไปห่างสรรพสินค้าพบกับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ส่วนพี่นัทเลขาผู้บริหารที่วางแฟ้มฝากให้จูนเอาไปให้ท่านตอน5โมงก็มีว่าที่สามีมารับไปรับประทานอาหารเย็น

               เวลา5โมงเย็น โทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานจูนดังขึ้น แต่ไม่มีใครรับสาย เดือดร้อนถึงตาลที่อยู่ห้องข้างๆต้องเดินมารับสาย “สวัสดีค่ะ คุณรวิสาไม่อยู่ค่ะ ดิฉันเป็นเพื่อนร่วมงานค่ะ”ตาลตอบสาย “ตาลใช่ไหม พี่เอง มีแฟ้มพี่บนโต๊ะจูนไหมเอามาให้พี่หน่อย”เสียงในสายตอบ “ท่านประธานเหรอคะ เดี๋ยวตาลเอาไปให้”ตาลรีบตอบ พร้อมกับคว้าแฟ้ม หันไปมองจอคอมเพราะปกติถ้าจูนไปไหนจะพิมพ์ไว้ที่ภาพพักหน้าจอ ข้อความระบุว่าไปซื้อกาแฟแปบนึง 16.50 ตาลก็เข้าใจสถานการณ์ แต่ที่เธอแปลกใจคือจูนน่าจะรอเอาแฟ้มไปก่อนนะตามปกตินิสัยคนบ้างานอย่างจูน แต่ด้วยความรีบก็เลยไม่สนใจอะไร

               “นี่ค่ะท่านประธาน”ตาลรีบยื่นแฟ้มให้เมื่อไปถึงห้องทำงาน “คุณจูนไม่อยู่เหรอวันนี้”ท่านถามทันที “อยู่ค่ะ แต่ลงไปซื้อกาแฟคืนนี้ถ้าจะหนักเกมือนทุกปี ผมฝากพวกคุณสองคนหน่อยนะวันนี้ คนมีความรักมันเยอะ บริษัทเราเนี่ย”ท่านกล่าว “ได้ค่ะท่าน”ตาลรับคำก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานตัวเอง

               ตาลเดินออกจากห้องท่านประธานมาก็ถอนหายใจ สงสารตัวเองกับจูนที่ต้องมารับภาระนี้ทุกปี โดยเฉพาะจูนที่ดูจะหนักกว่าเธอ

               ตัดภาพไปที่เอกำลังมีความสุขกับการขับรถพาแฟนสาวไปยังหาดทราย ที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก เพื่อให้พอที่จะขับรถกลับมาทำงานในวันพรุ่งนี้ จ๋าที่กำลังรับประทานอาหารก็ที่จะเข้าโรงภาพยนต์ไปดูหนังสักเรื่องที่ไม่ว่าจะเป็นหนังอะไรก็จะกลายเป็นหนังรักแมนติกทันที หรือแม้แต่พี่นัทที่กำลังสั่งอาหารมื้อที่หวานโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลแม้แต่จานเดียว ต่างจากจูนที่กำลังเดินลงไปหากาแฟเพื่อจะเติมความสดชื่นในวันที่ไม่ค่อยจะน่าสดชื่นสักเท่าไร

               เวลาประมาณห้าโมง20นาที งานที่ใครหลายคนต้องเริ่มถูกดำเนินการโดยยอดมนุษย์เงินเดือน ก็ถึงเวลาของมัน ตาลเริ่มทำงานของเธอเช่นกัน แต่ความผิดปกติสำคัญที่สุดในวันวาเลนไทน์สำหรับตาลก็มาถึง ปกติจูนจะต้องโผล่หน้ามาทักทาย ด้วยประโยคที่ว่า สวัสดีพี่สาวคู่หูคนโสด มันไม่มาตามปกติ ตาลลุกออกจากที่นั่งเดินมายังที่โต๊ะจูนทันที เธอไม่เห็นจูนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่เหตการณ์ปกติ เธอเดินลงไปหาลุงยามทันที “ลุงคะเห็นเจ้าจูนไหมคะ เดินลงมาซื้อกาแฟยังไม่กลับมาเลย”ตาลถาม “คุณจูนใจดีใช่ไหมครับ”เขาถามกลับ “ใช่ค่ะคนที่ชอบซื้อของมากฝากลุงบ่อยๆ”ตาลเร่งถาม “วันนี้ยังไม่เห็นเข้ามเลยนะคะ”ยามตอบ ตาลไม่ทันจะถามอะไรต่อ วิ่งไปยังตำแหน่งที่จอดรถประจำของจูนเพราะเธอคือคนที่มาเช้าที่สุด จึงไม่มีใครแย่งที่จอดรถเธอได้ รถก็จอดอยู่ตรงนั้น ตาลวิ่งไปที่โต๊ะทำงานขยับเมานท์คอม ปรากฏว่ามันถูกเข้ารหัสไปแล้ว แปลว่าไม่ถูกใช้มานานพอสมควร แปลว่าจูนอาจไม่ได้พึ่งลงไปตามเวลาหน้าคอม

               ตาลรีบโทรเข้ามือถือจูนในทันที “สวัสดีค่ะพี่ตาลนี่เจนนะคะ”เสียงที่รับโทรศัพท์ฟังดูไม่ดีตาลก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรไม่ดีกว่าน้องสาวของปลายสาย “เจนจูนเป็นอะไร”ตาลถามทันที “อ๋อมันโดนรถชนมือววานนี้พี่ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู”เจนตอบ “เมื่อวาน ไอซียู”ตาดตอบแบบคนไม่มีสติไปชั่วขณะ “พี่ตาลเป็นอะไรไหมคะ”เจนถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเสียงตาลหายไป “อ๋อไม่เป็นไรหรอกเจนไปดูแลน้องจูนเถอะอย่างไรโทรบอกพี่ด้วย”ตาลพูดจบก็วางสายทันที เพราะเธอตั้งสติได้แล้ว สิ่งที่เข้ามาในหัวเธอคือใครฝากงานจูนไว้ฉิบหายแล้ว และอีกความคิดหนึ่งคือมันเห็นไอ้จูนมานั่งทำงานเหรอ หรือว่าจูนจะไปจากไปแล้วแต่ยังไม่รู้ตัวยังมันนั่งทำงานให้คนอื่นเห็น

               แต่ความกลับผีของเธอก็ไม่เท่ากับการกลัวงานพัง เธอรีบพิมพ์เข้าไลน์ของบริษัท ด้วยข้อความที่ทำให้14กุมภาจะกลายเป็นวันโลกาวินาศทันที “ทุกคนคะ จูนประสบอุบัติเหตตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ไม่ได้มาทำงานนะ”แต่ข้อความก็ไม่ได้ถูกสนใจ เธอเลยต้องโทรหาเจนเพื่อให้เจนเช็คเมลล์ทำงานของจูน และไลน์ว่ามีใครฝากงานอะไรจูนไว้บ้าง ตาลนึกขึ้นมาได้ว่าว่าเธอมีรหัสคอมจูน จึงไปปลดล๊อค เธอก็พบข้อความหน้าจอว่า “วาเลนไทน์นี้มีเอาคืน”

               เริ่มต้องจากเอที่กำลังจะจอดรถริมชายหาด ก็ต้องมาหงุดหงิดเพราะเสียงโทรศัพท์ “สวัสดีครีบคุณตาล นี่มันนอกเวลางานนะครับ”เขารับสายด้วยความหงุดหงิด “ค่ะคุณเอ แต่คุณเอต้องติดต่อลูกค้านะคะ”ตาลตอบ “ผมฝากจูนไปแล้วครับ ผมขอตัวนะครับ”เอาตอบ “งั้นรบกวนคุณเออ่านไลน์บริษัทนะคะ ตาลโทรมาด้วยความหวังดี”ตาลตอบพร้อมกับตัดสาย เอจึงเปิดไลน์บริษัทก็พบกับข้อความนั้น เขาทำอะไรไม่ถูก สีชมพูในบรรยากาศ เริ่มถูกดูดสีขาวออกจนเริ่มกลายเป็นสีแดงเดือดขึ้นมาทันที อีกหนึ่งความคิดก็คือแล้วใครรับงานเราวะ

               ตามมาด้วยจ๋าที่รับรู้สถานการณ์เป็นคนถัดมา ก็ตกใจไม่ต่างกัน เธอรีบขอโทษแฟนหนุ่มแล้ววิ่งออกมาจากโรงหนัง กลับมายังสำนักงานทันที แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเพราะรถติดหนักมาในวันวาเลนไทน์ ทุกคนเริ่มรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับจูน รับรู้ว่าตัวเองแก้เวรกรรมที่ได้ก่อไว้กับจูนในวันนี้

               คนที่ดูจะไม่เดือดร้อนมากนักก็คือนัทที่กำลังจากตักข้าวเข้าปาก แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น “คุณนัท คุณทำงานไม่เสร็จแบบนี้ไม่ได้นะ”เสียงนั้นดังแทรกมาจากปลายสายก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกไป “นัทฝากน้องจูนไว้แล้วนะคะท่าน”นัทรีบออกตัว “ผมไม่สน่าคุณจะฝากใคร แต่นี่หน้าที่คุณ แก้ให้ผมก่อน3ทุ่ม”เสียงสุดท้ายก่อนที่สายจะถูกตัดไป นัทเปิดไลน์เตรียมจะไปต่อว่าจูน ที่ไม่ทำงานให้เสร็จก่อนส่งให้เจ้านาย หรือถ้าจะไม่ทำก็น่าจะบอกเธอ แต่พอเห็นข้อความก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน นอกจากหาทางทำงานให้เสร็จ

               ท่านประธานเดินลงมาหาตาล “คุณตาลจูนหายไปไหน”ท่านถาม “จูนประสบอุบัติเหตเมื่อวานนี้ค่ะท่าน”ตาลตอบ “ผมว่าแล้ว จูนไม่น่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”เขากล่าว ในขณะเดียวกันกับที่ไฟตรงที่โต๊ะทำงานจูนดับลงพอดี ทั้งสองหันมามองหน้ากันทันที “ไอ้จูน พี่ตาลกลัวต่อให้จะเป็นแกก็เถอะ”ตาลโวยวายขึ้น  “ใจเย็นๆคุณตาล เดียวผมนั่งอยู่เป็นเพื่อน”ท่านประธานตอบแต่สีหน้าก็ใช่ว่าจะไม่กลัว “ขอบคุณค่ะ”ตาลกล่าวพร้อมกับตั้งสติ ก่อนจะมีเสียงปังจากการปิดประตูดังขึ้น ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมกับขยับเก้าอี้เข้าหากัน ไอ้กลัวก็กลัว แต่งานที่ต้องทำก็มีมูลค่าพอสมควร จนท่านประธานต้องมาช่วยตาลจัดการเอกสาร

               เวลาผ่านไปสิบห้านาที แต่เหมือนนานแสนนานสำหรับตาลและท่านประธาน ไฟรอบโต๊ะทำงานจูน ถูกเปิดขึ้น ตาลที่สังเกตเห็นตาเหลือกขึ้นทันที “ไอ้จูน พอแล้วพี่กลัว”ตาลพูดออกมาพร้อมยกมือขึ้นไหว้ “ผมว่าน่าจะเป็นคนที่กลับมาทำงาน เดี๋ยวผมไปดูให้”ท่านประธานทำใจดีสู้เสือ เดินไปเปิดประตูห้องทำงานของจูน พร้อมกลับรีบปิดประตู ตาลที่เห็นก็รู้ภาพที่ปรากฎตรงหน้าท่านประธานทันที “มีใครมาไหมคะท่าน”เธอถาม เขาไม่พูดอะไรส่ายหน้าเดินมานั่งข้างเธอเหมือนเดิม ทั้งสองคนตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อเลี่ยงความสนใจตัวเองจากห้องนั้น ผ่านไปห้านาที ไฟทั้งห้องค่อยๆดับลงที่ละดวงเหลือแต่โต๊ะขอจูนที่เปิดอยู่ “ชัดละ”ท่านประธานกล่าวขึ้น ก่อนจะก้มหน้าไม่หันไปมองอีกเลย

               เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเสียงโทรศัพท์ของตาลดังขึ้น ปรากฏชื่อจูนบนจอ “รับแล้วบอกเธอดีกว่าว่าเธอไปแล้ว”ท่านประทานแนะนำ “ค่ะๆๆ”ตาลตอบเสียงสั่นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาพลัยคิดได้จะเป็นเจนที่โทรมาแจ้งข่างการจากไปของจูน จะได้ฝากเจนไปบอกน้องเธอ ว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว “สวัสดีค่ะพี่ตาลคนสวย”เสียงจากในสายทำให้ตาลรู้ดีว่านั่นไม่ใช่เจนแต่เป็นจูนแน่ๆ “จูนก็ฟังฉันนะแกตายแล้วแกไม่ต้องมาทางานแล้ว”ตาลรีบพูดออกไป “ตายอะไรพี่จูนนั่งทำงานอยู่เนี่ย ลงไปซื้อกาแฟแปบเดียวเอง”เสียงตอบมาทำให้ตาลขนลุกทันที “แกตายจูน แกโดนรถชนเมื่อวาน แกต้องฟังฉันนะ แกตายแล้ว”ตาลย้ำเสียงสั่น “พี่นั่นแหละต้องฟังหนู”เสียงในสายตอบ ไฟห้องของตาลดับลงพอดี ตาลแทบจะคุมสติไม่อยู่ “พอแล้วแกฉันกลัวแล้ว”ตาลพูดเสียงเบา “โอเคพอก็พอ จูนปลอดภัยนะพี่ นอนพักอยู่โรงพยายาลค่ะ”เสียงในสายตอบ “ฮะ อะไรนะเจนบอกว่าแกอยู่ไอซียู ทำไม่พูดได้แล้วเนี่ย”ตาลถามทันทีที่ได้สติกลับมา “อ๋อ ขาจูนหักหมอก็เลยไม่กล้าเคลื่อนย้าย พี่เจนจะบอกแต่พี่ตาลวางสายไปก่อนจูนเลยโทรมาแกล้งสักหน่อย”จูนตอบ “ไม่หน่อยแล้วแก ฉันเกือบตกใจตาย ท่านประธานอีกคนเนี่ย”ตาลรีบต่อว่า “ฝากขอโทษท่านด้วย”จูนตอบมา “แล้วไอ้ไฟที่ติดเองนี่มันอะไรวะ”ตาลเผลอถามไปในสาย “อ๋อระบบเช็คไฟวันกลางเดือนไงพี่ นี่กลัวจนลืมไปหมดแล้ว ห้องจูนตอนหกโมง แล้วก็ต่อด้วยห้องพี่ เดือนนี้น่าจะวันนี้พอดี ปกติจูนต้องแจ้งทุกคนแต่จูนเข้าโรงบาลพอดี”จูนตอบ พร้อมกับเสียงถอนหายใจจากทั้งสองคน “โอเคแก งั้นฉันไปทำงานต่อแล้วนะ หายไวๆ”เสียงตาลตอบ

               แสงไฟกลับมาสว่างอีกครั้ง เพราะทุกคนต้องกลับมาทำงานที่วันนี้คนทำแทนไม่ว่าง แม้ว่าจะเป็นงานเล็กน้อย แต่ทั้งหมดก็ต้องส่งให้ทัน3ทุ่ม หนักที่สุดก็คงไม่พ้นเอ ที่ต้องคุยงาน พร้อมกับมองแฟนสาวเดินจากไปต่อหน้าต่อตา แต่จะให้โทษใครล่ะ ก็ฝากงานไว้กลับคนที่ไม่มีตัวตนในที่ทำงานในวันนั้น

               บรรยากาศในที่ทำงานในเวลาที่ไม่ปกติแบบนี้ สีหน้าทุกคนดูตึงเครียด เว้นเว้นแต่ตาลที่ยิ้มอยู่ในใจ ว่าไอ้จูนมันเอาคืนได้แสบจริงๆ ถึงมันจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ ว่าแต่มันวางแผนจะทำอะไรวะ อย่าบอกนะว่ารถชนเนี่ยแผนมัน ด้วยความสงสัยหลังจาก2ทุ่ม หมดเวลาโอทีตาลก็เดินออกมา พร้อมกลับหันกลับสานต่องานให้น้องสาวสุดที่รัก “กลับแล้วนะทุกคน”คือคำพูดสุดท้าย ที่เธอหันไปพูดกลับใครหลายๆคนที่ต้องกลับมานั่งทำงานให้ทันก่อน3ทุ่มเพื่อรักษาโบนัสอีกครึ่งหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ เพราะท่านประธานได้ประกาศตัดไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในฐานะที่ไม่มีความรับผิดชอบ

               พอขึ้นรถส่วนตัวได้ตาลโทรมาจูนทันที่“ไอ้จูน สรุปแกวางแผนใช่ไหม”เสียงตาลถามทันทีที่น้องสาวที่รักรับสาย “แผนอะไรพี่สาว”จูนตอบเสียงกวนประสาท “ก็ที่แกพิมพ์ไว้บนหน้าจอ แกโกหกว่ารถชนเหรอ”ตาลถาม “ชนจริงพี่ตาล จูนแค่กะจะลาด่วนครึ่งวันแค่นั้น จูนเคลียงานล่วงหน้ารอแล้ว ลงมาซื้อกาแฟก็เกิดเรื่องก่อน”จูนตอบ “อ้าวเหรอ ทีนี้หนักกว่าเดิม โดยกันไปทั่วหน้าโบนัสครึ่งนึง ใครทำไม่ทันโดนตัดหมด”ตาลเล่า “โห! เป็นสิบคนเลยนะนั่น”จูนตอบ “แกอ่านข้อความแล้วสินะ ฉันต้องมานั่งโทรไล่ตาม ไม่งั้นนะจะโดนไล่ออกกันแทน”ตาลเล่าด้วยเสียงสะใจ “ฉันสงสัยอยู่อย่างเดียวทำไมทุกคนถึงไม่เอะใจว่าแกไม่อยู่เลยวะ”ตาลถาม “ไว้มาเยี่ยมน้องจะเล่าให้ฟัง”จูนตอบ

               วันเสาร์ถัดมาตาลก็ไปเยี่ยมจูนที่กำลังพักฟื้น “เล่ามาสักทีท่านประธานก็อยากรู้”ตาลถามพร้อมกับมองไปที่ชายมีมาด้วย “อุ้ย จะดีเหรอพี่”จูนถามอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าท่านจะมาด้วย “บอกผมเถอะคุณจูนผมก็อยากแก้นิสัยคนพวกนี้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นพอคุณหายป่วยไปพวกเขาก็จะทำเหมือนเดิมอีก”ท่านประธานถาม “ก็พวกเขาฝากจูนบ่อย แรกๆก็รอจูนตอบรับ พอจูนตอบทุกครั้งเขาก็เริ่มไม่ถาม แถมยังฝากมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจูนไม่ทำบริษัทก็เดือดร้อน”จูนตอบ “แล้วคุณจูนไม่บอกหัวหน้างานล่ะครับ”ท่านถาม “บอกนะคะ บอกมาตลอดเลย”จูนตอบ “โอเคผมจะจัดการให้ คุณจูนกลับมาจะได้ไม่ต้องเจอแบบเดิม”เขากล่าว “อ๋อจูนคงไม่ได้กลับไปแล้วล่ะค่ะจูนเขียนใบลาออกไว้แล้ว จูนจะไปเรียนต่อในอีกสองเดือน พอดีจูนมาเจอเรื่องนี้ก่อนเลยไม่ทันได้บอกใคร”จูนตอบสีหน้านิ่งสงบ “ผมคงเสียดาย แต่ผมคงไม่รั้งความฝันคุณไว้หรอก”เขากล่าว ในขณะที่ตาลยังตกใจอยู่ “แกจะไปจริงๆเหรอจูน”ตาลถามทันทีที่ได้สติ “จูนต้องไปพี่มันเป็นฝันของจูน”จูนตอบ “คุณตาล ให้น้องเขาได้ไปตามฝันเถอะ”ท่านประธานกล่าวพร้อมกับหันมองหน้าทั้งสอง บรรยากาศเงียบเสียยยิ่งดว่าวันที่ตาลกับท่านประธานกลัววิญญาณปลอมของจูนเสียอีก “หรือท่าจะให้จูนรีโมทจูนยินดีนะคะ แต่อาจจะไม่ได้เท่าเดิม”จูนเสนอทางออก “ผมจะเอาไปพิจารณาอีกที”เขาตอบ “ที่นี้เป็นผีของจริงเลยนะแก”ตาลตอบพร้อมกับยิ้มออกมาได้บ้าง

               “มาเล่าต่อที่กว่าพี่ คือทุกคนเข้าใจไปว่าถ้าจูนไม่ตอบแปลว่าตกลงที่จะทำให้ พอจูนไม่อยู่ทุกคนก็เลยเข้าใจไปว่าแบบนั้น”จูนเล่าต่อ “จริงอย่าที่คุณว่าวันนั้นผมยังโทรหาคุณที่โต๊ะ ทั้งที่คุณไม่ได้ลงโอที”ท่านประธานกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ท่านไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ ท่านไม่เคยใช้งานจูนเกินหน้าที่ ทุกๆครั้งที่ท่านจะใช้ ท่านจะขอจูนก่อนเสมอ”จูนรีบตอบ “เพราะผมเคยเป็นแบบคุณมาก่อน ผมจึงไม่ยอมให้บริษัทผมเป็นแบบนี้เด็ดขาด”เขาตอบด้วยสีหน้าของคนที่เข้าใจทุกอย่าง “จูนยืนยันตรงนี้นะคะ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเหตุผลให้จูนลาออก แต่จูนก็ว่าจะเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน”จูนกล่าวพร้อมกับยิ้ม

               สุดท้ายจูนได้รับงานแบบรีโมทในตำแหน่งที่ปรึกษา กลายเป็นวิญญาณอย่างแท้จริง แต่ไม่มีใครสั่งงานเธอได้นอกจากท่านประธาน และงานลับๆจากตาล แต่เรื่องอขงเธอในวันวาเลนไทน์ปีนั้นยังตามหลอนทุกคนในบริษัท ราวกับผีที่เฮี้ยนที่สุดก็ไม่ปาน คำสาปความโสดไปเยือนคนกว่าครึ่งถี่ประสบกับวิญญาณจูนในวันนั้น แต่นั่นเพราะเขาถูกหลอกด้วยผีที่ร้ายที่สุด คือมายาคติที่เอาเปรียบผู้อื่นโดยไม่รู้สึกผิดอะไร

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น