Food Stories #1 ขนมครก




               “มึงๆพี่คนนี้ น่ารักมากเลย”หนุ่มต้นนักศึกษาปีหนึ่งพูดด้วยเสียงกระซิบ พร้อมกับสะบัดใบหน้าเบาๆไปในทิศทางที่ต้องการให้เพื่อนๆมองตามไป ตรงหน้าของพวกเขาปรากฏร่างหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาที่คงจะตรงกลับสาวในฝันของของใครหลายๆคน “นั่นพี่ตาลปี3ไงมึง มึงชอบเหรอเดี๋ยวกูเดินไปบอกให้”เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นไปจริงๆ แต่พอต้นดึงไว้ด้วยแรงเพีบงเบาๆเพื่อนก็หยุดชะงัก ทั้งที่ในความจริงเขาสามารถฝืนแรงนั้นได้อย่างสบายๆ วันนั้นพี่ตาลไม่ได้มาคนเดียวเดินมากลับกลุ่มเพื่อนเพื่อที่จะหาซื้ออาหารไปนั่งกินกัน ในสถานที่ที่ทางตลาดจัดไว้ให้ ซึ่งก็คือบริเวณที่ต้นและเพื่อนนั่งอยู่ ไม่รู้ว่าบุพเพสันนิวาส หรือว่าอาละวาดไม่แน่ใจ กลุ่มสาวๆเดินมานั่งลงที่โต๊ะข้างๆพวกของต้น

               “ตาลแกนี่จะกินแต่ของหวานใช่ไหมเนี่ย”เสียงเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของตาลพูดขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่ตาลซื้อมา “มันก็เหมือนข้าวไม่ใช่เหรอพวกแก”ตาลตอบ “แล้วแต่แกเลย อย่างไรแกก็ไม่น้ำหนักขึ้นอยู่ดี”เพื่อนเธอตอบ “แกเช้าฉันก็ออกกำลังกาย ไปไหนมาไหนก็เดิน เพื่อสิ่งนี้แหละ”ตาลกล่าว

               แม้ว่าจะไม่ใช่บทสนทนาที่น่าสนใจอะไรสำหรับคนทั่วไป แต่เมื่อมันเข้าหูคนที่กำลังปลื้มใครสักคน มันกลายเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก ต้นบันทึกไว้ในความจำของเขาว่า พี่ตาลจะออกกำลังกายในตอนเช้า และชอบกินขนม

               เช้าในอีกหลายวันต่อมา ต้นก็ไปออกกำลังกายในตอนเช้า ทั้งที่ปกติไม่เคยคิดแม้แต่จะเดินเสียด้วยซ้ำ “อ้าวน้องต้นมาออกกำลังกายด้วยเหรอครับ”เสียงหนึ่งทักมากจากข้างหลัง ต้นหันไปมองทั้งที่แรงจะเดินยังจะแทบไม่มี เพราะเขาจำได้ดีว่ามันคือเสียงสวรรค์ของเขา “ครับพี่ตาล ผมว่าร่างกายผมไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว”ต้นตอบในขณะที่พยายามเก็บอาการ “งั้นก็สู้ๆนะครับ”เสียงตอบขณะที่ร่างเจ้าของเสียงกำลังวิ่งแซงและค่อยๆไกลออกไป

               “โอ้ย ความรักนี่มันทรงพลังจริงๆโว้ย”เสียงเอกเพื่อนสนิทในกลุ่มแซวต้นขณะที่กำลังเดินไปเรียน “อะไรของมึง กูก็แค่อยากแข็งแรง”ต้นพยายามแก้ตัว “กูอยู่กับมึงมาครึ่งปี เดินมาเรียนมึงยังไม่เคยเลยไอ้เวร”เอกตอบพร้อมกับเลิกคิ้วใส่ “เอาน่า พวกมึงก็เบาๆหน่อยเดียวพี่แกอยู่แถวนี้กูจะแย่เอา”ต้นกระซิบ “พี่ไหนพี่ตาลอะนะไม่อยู่หรอก”แทนที่จะเงียบตามที่ต้นเอกกลับตะโกนเสียงดังจนคนแถวนั้นได้ยินกันแทบทุกคน แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ไม่มีใครใส่ใจสักเท่าไรนัก

               เวลาผ่านไป1ภาคการศึกษา ต้นก็ยังแวะเวียนไปออกกำลังกายที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยอยู่เป็นประจำ แม้ว่าสุขภาพจะไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงที่เขาต้องการ แต่การกระทำมันก็ต้องส่งผลของมันอยู่ดี จากเด็กรูปร่างหน้าตาดีอยู่แล้ว กลายร่างเป็นหนุ่มสุดสมาร์ท ในสายตาของใครหลายๆคน แต่มีคนอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้สังเกตก็คือพี่ตาล เพราะเห็นก็นอยู่ทุกๆวัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสถานะไปแต่อย่างใด

               “ต้น มึงวิ่งทุกวัน คุยทุกวันไม่ก้าวหน้าเลยวะ”เอกกล่าวแซวขณะที่พวกเขาไปดื่มกันตามประสาชายหนุ่ม “กูไม่รู้จะไปทางไหนว่ะ”ต้นตอบ “มึงก็ลองไปเจอพี่เขาเวลาอื่นบ้างสิวะปล่อยให้เขาคิดว่ามึงมาวิ่งอย่างเดียวอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวปีหน้าพี่เขาไม่อยู่แล้วนะเว้ย”เอกแนะนำพร้อมกับยุส่งให้ต้นเดินหน้าสักที”เออว่ะอีกไม่ถึงเดือนแม่งจะสอบแล้วนี่”ต้นตอบ “ก็ใช่ไงเวลามึงเหลือไม่เยอะนะเว้ย”เพื่อนอีกคนกล่าวเสริม แม้ว่าต้นจะหันไปออกกำลังกาย แต่เขาก็ไม่เคยละวางจากการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง วันไหนดื่มกันหนักเช้าต้นก็ไม่ได้ไปออกกำลังกาย หรือบางครั้งถึงขั้นขาดเรียนในคาบเช้าไป

               “พวกมึงวันนี้มีติววิชาคณิตศาสตร์2พวกมึงจะไปเรียนไหมตอนเย็น”ต้นกล่าวชวน “พวกกูว่าจะไปสังสรรค์กัน ถ้ามึงจะตามไปก้ได้นะร้านใกล้ร้านเดิม”เอกกล่าว “แต่มึงคงไม่ไปหรอก คนติวคือใครพวกกูเข้าใจดี”เพื่อนกลุ่มแซวต่อ เพราะคนที่จะมาสอนเสริมให้น้องๆก็คือพี่ตาล บุคคลผู้ที่ดูเหมือนว่าทำอะไรก็ได้ไปหมดในสายตาของใครหลายๆคน

               “อ้าวน้องๆวันนี้พอแค่นี้นะ โชคดีในการสอบนะทุกคน”เสียงตาลบอกเลิกคลาสเสริมกับน้อง ทุกคนก็รีบเก็บกระเป๋าออกไปจากห้องเรียน เหลือแค่เพียงต้นเป็นคนสุดท้าย “พี่ตาลครับ ผมซื้อขนมมากฝาก แทนคำขอบคุณครับ”ต้นพูดพร้อมกับยื่นขนมครกเจ้าดังในมือให้ตาล “ขอบใจครับ พรุ่งนี้ไปวิ่งไหมต้น”ตาลกล่าวขอบคุณพร้อมกับถาม “ไปครับ ผมไม่ได้วิ่งมาสองวันแล้ว”ต้นตอบ “มัวไปเมาอยู่ล่ะสิ”ตาพูดพร้อมกันหันมายิ้ม “ครับ ส่งท้ายก่อนสอบ”ต้นตอบพร้อมกับเอามือเกาหัว “เพลาๆลงหน่อยก็ดีนะ พี่เห็นไปกันทุกวันเลย”ตาลกล่าวพร้อมกับหันมายิ้มด้วยความเป็นห่วง “ครับพี่ตาล ผมจะลดๆลง”เขาตอบตกลง

               วันรุ่งขึ้นต้นก็ไม่สามารถตื่นไปวิ่งในยามเช้าได้เหมือนกันบที่บอกไว้กับตาล แต่เขาก็ยังสามารถตื่นไปเรียนคาบเช้าได้ทัน เมื่อเลิกเรียน เขาก็เดินสวนกับตาลและกลุ่มเพื่อน ตาลก็หันมายิ้มให้ ด้วยสีหน้าที่เหมือนกับจะบอกว่าเมื่อเช้าหายไปไหนมา ทำไมไม่มาวิ่ง ต้นก็พยักหน้าเหมือนกับยอมรับผิด โดยที่ไม่มีใครเข้าใจเลย นอกจากทั้งสองคน

               และแล้วการสอบก็มาถึง ต้นก็สามารถทำคะแนนได้ดีอยู่ในระดับต้นๆของภาควิชา แต่ต้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะหลายจากออกจากห้องสอบวิชาสุดท้าย ในหัวของเขาเรามีแค่เรื่องพี่ตาลเท่านั้น วันสุดท้ายที่จะได้เจอพี่ตาลก็คือวันปฐมนิเทศฝึกงาน ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาอาจไม่มีโอกาสอีกแล้ว แม้ว่าจะไม่มั่นใจมากนัก แต่เขาก็ตัดสินใจเดิมพันครั้งนี้ กับขนมครกเจ้าดังแบบเดียวกับในวันนั้น

               “มึงกูไม่มั่นใจเลยว่ะ พี่ตาลเขาดูดีไปวะทุกอย่างเลย”ต้นกล่าวกับเพื่อน “โอ้ยมึงก็ดี ท๊อปภาค หน้าตาก็ดี สาวๆเป็นสิบสนมึงทั้งนั้นแหละ ติดตรงที่มึงรอพี่ตาลนี่แหละ”เอกตอบ “เอาเถอะวันนี้วันสุดท้ายแล้ว ไม่งั้นมึงต้องรออีกเทอมนึง แบบไม่ได้เจอเลยนะ”เพื่อนอีกคนกล่าวเสริม หลังจากนั้นทั้งกลุ่มก็พากันยุให้ต้นมีความกล้าที่จะทำการใหญ่ในวันนี้ เอกที่เป็นเหมือนหัวโจก ถึงกับไลน์ไปขอให้เพื่อนพี่ตาลปล่อยให้พี่ตาลเดินคนเดียว ซึ่งพี่ๆก็ยินดีที่จะสนับสนุนคู่นี้ให้รักกันเหมือนกัน

               และแล้ววินาทีสำคัญก็มาถึง ตาลเดินออกมาจากห้องประชุมเป็นคนแรกๆของภาควิชา เพื่อนๆในกลุ่มไม่ได้เดินตามออกมาดดยบอกว่าคุยกับอาจารย์ก่อนเดี๋ยวตามไป แต่จริงๆคือแอบยืนลุ้นอยู่ข้างในหอประชุม ต้นรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหา “พี่ตาลครับขนมครกครับ ขอบคุณที่มาติวให้”ต้นเกริ่น “ขอบใจจ๊ะต้น”ตาลตอบพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ทุกคนลุ้นตัวโกงว่าตาลจะตอบรับหรือไม่ ต้นกลับไม่กล้าขึ้นมาปล่อยให้ตาลรับขนมแล้วเดินจากไป

               “พี่ตาลครับ”เสียงต้นดังขึ้น เป็นเหมือนความหวังของคนรอลุ้นอย่างเพื่อนทั้งสองฝั่ง “ผมชอบพี่ครับ”ต้นรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป สีหน้าของตาลเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยิน สีหน้าของเพื่อนต้นที่เห็นหน้าตาล ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แม้ว่าต้นจะไม่เห็นสรหน้าของตาล ที่หันหลังให้ ก็หน้าเปลี่ยนสีเมื่อสังเกตเห็นกัปกิริยาของเพื่อนตัวเอง “เราคงไม่เหมาะกันนะต้น พี่ขอโทษ”ตาลตอบโดยไม่หันมามอง เดินเร่งความเร็วออกไปจากตรงนั้น เพื่อนของตาลที่สังเกตเห็น รีบเดินตามออกมาทันที

               “ต้นไม่ต้องเสียใจนะ ตาลมันแบบนี้และ อีกอย่างพี่บอกไม่ทัน ไอ้ตาลไม่กินขนมครก”เพื่อนพี่ตาลคนหนึ่งเดินมาปลอบก่อนจะรีบเดินจากไป ก็เป็นคราวของเพื่อนต้นที่จะต้องปลอบเพื่อน และแน่นอนมันก็ลงท้ายด้วยการพาไปดื่มเพื่อลืมเธอ

ถึงแม้ว่าต้นจะไม่ได้เศร้าอะไรมากมายเพราะเขาก้ได้ทำใจไว้แล้ว แต่การดื่มมันถูกกำหนดไว้แล้ว เพียงแค่ว่าจะเพื่อฉลองหรือเพื่อลืมเธอแค่นั้นเอง

               “หายเศร้ายังวะต้น”เอกทักทายในวันแรกที่มาเปิดเทอม “เปิดเทอมก้เปิดแผลเพื่อนเลยนะมึง”เพื่อนอีกคนกล่าวพร้อมกับตบกะโหลกเอกโวยน้ำหนักมือที่ใช้หยอกล้อกัน “ไม่เป็นไรแล้ว อย่างน้อยพี่เขาก้ทำให้กูเป็นคนที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่พอก็ตาม”ต้นตอบ “โอ้ยพ่อพระเอก กูเริ่มจะไม่อยากสงสารแล้วเนี่ย”เพื่อนคนที่ตบกระบานเอกเมื่อสักคร่าวกล่าว ก่อนจะพากันไปเข้าเรียน

               แม้ว่าจะถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่ต้นก็ยังติดตาดูสตอรรี่ของตาลบ่อยๆ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีรูปอะไร นอกจากอาหาร และขนม ถ้าจะถามว่าดูบ่อยขนาดไหน ก็ทุกครั้งที่เธอลงนั่นแหละ

               “ต้น วันนี้ไปไหม”เอกกล่าวชวน “ไปดิ แต่กูไม่กินได้ใช่ปะ”ต้นตอบ “เฮ้ยอะไรวะ พี่ตาลไม่อยู่แล้ว มึงไม่ต้องไปวิ่งแล้ว”เอกแย้งขึ้น “ไม่เกี่ยวกูแค่อยากจะไป และก็ไม่อยากจะกินบ่อยๆแล้ว”ต้นตอบ “เออๆ ไปนั่งกะพวกกูก็พอ จะได้ขับรถด้วย”เอกตอบ เพื่อนๆไม่ได้มีปัญหากับการไม่ดื่มของต้นแต่อย่าใด ดีซะอีกมีคนมีสติขับรถกลับให้

               พอไม่ดื่ม บวกกับออกกำลังกายมันยิ่งทำให้ต้นดูดีขึ้นอีกขั้น จนถึงกับมาสาวมาจีบทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เหมือนต้นยังรอการกลับมาของพี่ตาล เพื่อมีโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้ง แม้ว่าหลายๆครั้งเพื่อนจะยุส่งให้เขาลองครบใครสักคนแทนที่จะรอพี่ตาล

               และแล้วการฝึกงานหนึ่งเทอมก็จบลง ตาลก็กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง ทั้งสองจึงต้องวนเวียนมาพบกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่คณะ หรือสนามกีฬา แต่ทุกๆครั้งก็ทำได้แค่ยิ้มให้กันเหมือนกับว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ต้นก็ไม่ได้ดูเศร้าอะไรเหมือนกับเขาได้ทำใจยอมรับมันไปแล้ว เพื่อนๆของเขาก็คิดอย่างนั้น

               และวันปัจฉิมนิเทศของตาลก็มาถึง ต้นก็ทำสิ่งที่เพื่อนไม่คาดคิด เขาซื้อขนมครกมา จนเพื่อนๆต้องทักท้วง “มึงพี่ตาลเขาไม่กินขนมครก”เอกทัก “แต่กลัวก็มีแค่ขนมครกนี่แหละ”ต้นตอบพร้อมทำหน้าไม่สนใจ เมื่อเวลาที่พี่ตาลเดินออกมาจากขอประชุมต้นก็เดินเข้าไปหาพี่ตาลทันที

               “พี่ตาลครับ”ต้นกล่าวทักขณะไปยืนอยู่ตรงหน้า ภาพที่เพื่อนของทั้งสองฝั่งเห็นคือตาลยกมือห้ามก่อนที่ต้นจะพูดอะไร แล้วก็พูดอะไรบ้างอย่างกันสักพัก ก่อนที่ต้นจะยื่นขนมครกในมือให้ ตาลรับมันไว้ก่อนที่จะเดินจากไป ทุกคนคาดเดาผลได้ดีว่า มันไม่น่าต่างจากครั้งนั้น แต่มันต่างตรงที่ไม่มีใครรู้และกล้าถามถึงเรื่องราวในวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น

               “ตาลแกตอบน้องเขาไปว่าไงวะวันนั้น”เพื่อนคนหนึ่งถามตาลเมื่อกลับจากงานฉลองเรียนจบด้วยความเมา “ไม่ได้ตอบอะไร ต้นไม่ได้ถามอะไรตาล”ตาลตอบพร้อมกับเงยหน้ามองฟ้าแล้วก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ทำให้เพื่อนที่เมาๆอยู่แล้ว งงเข้าไปอีกทั้งกับคำตอบแล้วสีหน้า

               และแล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเฉลยเมื่อทั้งสองคนตั้งสถานะคบกัน แต่เป็นคำเฉลยที่สร้างคำถามมากมายตามา โดยเฉพาะกับเพื่อนๆของต้น “ไอ้ต้นตอนแรกเขาไม่เอามึง พอมึงดีขึ้นหล่อขึ้น เขาก็กับมาเอามึง มึงโอเคเหรอวะ”เอกถามตรงๆตามความสนิทที่มากพอ “โอเคดีวะ มีอะไรต้องไม่โอเค ที่กูดีขึ้นก็เพื่อพี่ตาล”ต้นตอบ “แล้วแต่มึง แล้วขนกครก พี่เขาไม่กินมึงซื้อไปให้ทำวะ”เอกถามด้วยความสงสัย ต้นยิ้มไม่ตอบอะไร

               “ไอ้ตาลแกไม่กินขนมครกไม่ใช่เหรอ พอหนุ่มให้กินเฉย”เพื่อนของตาลกล่าวแซวเมื่อเห็นตาลลงรูปกินขนมครกในสตอรรี่ “ใครไม่กินขนมครก ไม่มี”ตาลตอบพร้อมกับลากเสียงออกไปพร้อมกับยิ้มให้เพื่อน “สรุปว่าไงเล่าซิ”เพื่อนถาม ตาลไม่เล่าอะไรนอกจากยิ้มตอบ ทิ้งเรื่องในวันนั้นให้เป็นความสงสัย

               ทุกคนยังคงเข้าใจว่าที่ตาลมากินขนมครก เพราะว่าต้นเป็นคนซื้อให้ จนกระทั่งวันแต่งานของทั้งสองเดินทางมาถึง พิธีกรงานแต่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอกกับพี่น้ำคนที่ยากจะรู้เรื่องวันนั้นมาตลอด จึงเป้นโอกาสที่ดีทุดสุดที่จะถามเป็นครั้งสุดท้าย

               “สิ่งสุดท้ายที่เราพิธีกรคู่ และพี่น้องชาวคณะทุกคนคงอยากจะถามคู่บ่าวสาวก็คือ”เอกเกริ่นนำ “คืออะไรคะน้องเอก”น้ำชงต่อ “วันปัจฉิมนิเทศเกิดอะไรขึ้นที่หน้าห้องประชุมครับ”เอกต่อทันที “อุปกรณ์มา”น้ำพูดพร้อมกับผายมือไปยังพนักงานที่หิ้วถุงขนมครกมา คู่บ่าวสาวมองหน้ากัน หัวเราะออกมาเสียงดังจนเข้าไปในไมค์ที่ห่างจากปากพอสมควร “พี่ตาลครับ”ต้นแกล้งพูดเหมือนกับวันนั้น เสียงกรี๊ดดังลั่นในงาน ตาลยิ้มออกมาก่อนจะทำท่ายกมือห้าม เสียงในงานดังจนพิธีกรต้องขอให้เงียบเพื่อที่จะฟัง ซึ่งทุกคนก็ยินดีจะทำตาม ในขณะที่แขกกลุ่มอื่นๆงงว่าเกิดอะไรขึ้น “โอเคไม่ต้องแสดงท่าทางครับ บ่าวสาว เรามีวีดีโอ”เอกพูดจบ พอเอกพูดจบวีดีโอที่ถูกเอกแอบบันทึกไว้ในวันนั้นก็ปรากฏบนจอ “ถ้าพร้อมแล้วขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวไขปริศนาที่พวกเราสงสัยมา7ปีค่ะ”พี่น้ำกล่าวพร้อมผายมือ

               “พี่ตาลครับ”ต้นเริ่มพูดตามที่ปากตัวเองในอดีต “ต้นอย่าพึ่งพูดอะไร ฟังพี่ก่อน”ตาลต่อบท “ครับพี่ตาล”ต้นตอบไปตามปากในวีดีโอ “ต้นยังชอบพี่อยู่ไหม จริงๆพี่ชอบต้นตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ แต่พี่ไม่ชอบคนแค่บางอย่างที่ต้นทำ”ตาลให้เสียงภาพต่อ “ผมรู้ครับพี่ตาล แล้วผมไม่ได้โกรธอะไรพี่ตาลด้วย ผมผิดเองแหละ”ต้นพูดไปตามที่จำได้แม้ว่าจะไม่ตรงตามเดิม แต่ก็ยังอยู่ในใจความเดิม “งั้นเราลองมาคบกันไหมต้น”ตาลพูดพร้อมกับอายไปด้วย “ครับพี่ตาล นี่ครับพี่ตาล ขนมครกไม่ใส่ต้นหอม”ต้นพูดจบพร้อมกับเสียงอ๋อจากเพื่อนมหาลัยของทั้งสองฝ่าย

               “สำหรับที่งงนะครับ คือผมและใครหลายคนเข้าใจมาตลอดว่าพี่ตาลไม่กินขนมครก ไม่ชอบขนมครก แต่ผมดูสตอรรี่ไอจีพี่ตาล ในช่วงที่ไปฝึกงาน แล้วเดาเอาใหม่ว่าพี่ตาลไม่กินแค่ต้นหอม ผมก็เลยเข้าข้างตัวเองไปว่าจริงพี่เขาอาชอบเรา แต่เราขี้เมาเขาเลยไม่ชอบ”ต้นกล่าวเสริม “ต้นพี่จะบอกว่า จริงพี่ไม่สนเรื่องที่ต้นดื่มหรอกนะ พี่สนใจแค่เรื่องที่ต้นไม่รักษาคพูดแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม”ตาล “อ้าว เหรอ แล้วผมงดเหล้ามาทำไมตั้งหลายปี”ต้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ “ดีแล้ว ที่เจ้าบ่าวเข้าใจผิด เลยดูหนุ่มกว่าผมหลายปี ทั้งที่มันอายุมากกว่า”เอกพูดแทรกขึ้นมา ทั้งงานพากันขำออกมา จบปริศนาขนกครก7ปีที่ทุกคนรอคอยคำตอบ

 

               


 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น