ทราเวล สตอรรี่ ตอนที่3 คิดชื่อเรื่องไม่ออก

 


บรรยากาศบนยอดดอยในยามเช้า อากาศเย็นสบาย วิวสวยงามสุดสายตา แต่สีหน้าของหญิงสาวบอกได้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้น กล้องและขาตั้งพร้อมในมุมที่จะบันทึกภาพที่สวยที่สุด ที่จะไม่พร้อมเห็นจะมีเพียงตากล้องที่ไม่พร้อมจะกดเพื่อบันทึกภาพ “วิวสวยไม่พอหรือคุณ”เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเรียกสติของเธอให้กลับคืนมาอีกครั้ง เสียงที่ดังมาเตือนสติไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือตูนชายหนุ่มที่เธอพบโดยบังเอิญระหว่างเดินขึ้นมาบนดอยนี้ เธอหันไปมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆพอกับอากาศในเวลานั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปกดชแบบไม่ดูหน้าจอด้วยซ้ำ แต่กดเพื่อทำตามที่เขาบอกให้ทำเท่านั้น “โถคุณ เดินขึ้นมาเหนื่อยแทบตาย นอนลำบากทั้งคืนคุณจะไม่ถ่ายรูปให้มันดีๆหน่อยเหรอ แต่เอาเถอะผมเข้าใจ” เขาตอบด้วยสีหน้าที่แสดงความเห็นใจ “เข้าใจจริงจริงเหรอ”เธอหันมาตอบด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น “คงไม่หรอก คุณบอกไว้นี่ ว่าผมไม่มีทางเข้าใจ”เขาตอบกลับ “ว่าแต่คุณเนี่ยโสดมากี่ปี”เธอถามเพียงเพื่อต้องการเบี้ยงประเด็นออกจากตัว “26”เขาตอบทันที “จำแม่นเหมือนกันนะคุณเนี่ย นานขนาดนั้นแล้ว”เธอหันไปตอบ “ใครก็จำอายุตัวเองได้ทั้งนั้นแหละคุณ”เขาตอบ คิ้วของเธอทั้งสองข้างแทบจะมากองรวมกันแสดงความแปลกใจอย่างที่สุด “ขอโทษๆ ฉันแค่ตกใจ”เธอกล่าวขออภัยเมื่อได้แสดงอาการนั้นออกไป “ไม่เป็นไรหรอก มันก็แปลกจริงๆ”เขาตอบ ก่อนที่จะพากันไปถ่ายรูปวิวอย่างสนุกสนาน

เวลาผ่านไป จนแสงไปเหมาะกับการถ่ายรูป

            “กินอะไรยังคุณ”ชายหนุ่มถาม “ยังเลย ฉันไม่ได้พกอะไรมา กะว่าลงไปกินข้างล่างทีเดียว”เธอตอบ “เอานี่ผมแบ่งให้”เขาพูดพร้อมพร้อมยื่นขนมปังทาเนยมาให้คู่หนึ่ง “เธอหยิบมาดู ก่อนจะกัดไปด้วยความหิว “ผมว่าคงไม่พอเดียวผมไปเอามาให้อีกสักคู่ ท่าทางจะไม่ได้กินตั้งแต่เย็น”เขาพูดจบก็เดินไปที่เต็นท์ไปจัดการทำขนมปังให้เธอ “มีแต่เนยเหรอคุณ”เธอถามพร้อมกับไปทำหน้าเบื่อ “ใช่ผมไม่ชอบ”เขาพูดพร้อมกับเสียงที่หายไปในลำคอ “แยม”เธอเติมให้เพราะว่านั่นคือชื่อของเธอ เขาคงเกรงใจที่จะพูด “ใช่ๆ ผมหมายถึงแยมที่ไว้ทาขนมปังนะ”เขารีบพูด ก่อนที่จะทั้งสองจะหันมายิ้มให้กัน

            หลังจากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายไปเก็บเต็นท์ ก่อนจะเตรียมตัวลงเขา สิ่งที่เขาสังเกตุเห็นก็คือเธอใส่เสื้อผ้าชุดเดิม ในเป้นะมีแค่เต็นท์กับขาตั้งกล้อง ในหัวคิดว่าจะแซวเรื่องไม่อาบน้ำแต่อีกใจก็บอกว่าไม่ดีกว่า มันยิ่งชัดเจนมาขึ้นเมื่อเดิน เขาสังเกตได้เลยว่า เธอเดินตัวปลิวเหมือนกับเป้มีน้ำหนักไม่มากนัก “คุณจะเที่ยวต่อไหม ฉันจะแวะไปเอาของไปเก็บที่ที่พักสักหน่อยสักหน่อย”เธอถาม “ได้สิคุณ ผมมีเวลาอีก2วัน”เขาตอบ พอไปถึงมันไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นหอพัก พอเธอเดินลงมาพร้อมกับเปลี่ยนชุดเขาก็ถามทันที”คุณเป็นคนที่นี่เหรอ”เขาถามไปตรงๆ “เปล่า ฉันย้ายมาที่นี่2ปีเอง”เธอตอบ “โอเคงั้นคุณนำเที่ยวเลย”เขาเสนอ “ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากไปที่เดิมๆ”เธอตอบ “โอเคงั้นผมพาไปเอง ถ้าคุณไม่อยากไปคุณบอกนะ”เขาตอบ “คุณ ฉันว่าฉันดีขึ้นแล้ว ไปไหนก็ไปได้”เธอตอบพร้อมกับยิ้มด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าอาการดีขึ้นชัดเจน

            เขาพาเธอไปกินข้างก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเขารู้ดีว่าเธอได้กินไปแค่ขนมปัง เมื่อเช้า มันคงไม่พอสำหรับคนที่ไม่ได้กินมาตั้งแต่มื้อกลางวันเมื่อวาน “นี่คุณทำงานอะไรเนี่ยมาเที่ยววันธรรมดาเนี่ย”บทสนทนาแรกบนโต๊ะอาหารจากเธอ “ก็ผมเป็นช่างภาพ นี่แหละงานผม แล้วคุณล่ะ”เขาตอบพร้อมกับถามกลับ “ฉันเป็นนักเขียนนิยายสืบสวน นี่ผลงานฉัน”เธอตอบพร้อมกับยื่นมือถือมาให้เขาดู “ไว้กลับไปจะอุดหนุนนะ ไม่มีรายเซ็นเหรอ”เขาถาม “ไว้คุณมาเชียงใหม่อีกทีฉันจะเซ็นให้”เธอตอบ “คุณอยากไปทำอะไรต่อ”เขาถาม “เจอตากล้องทั้งที ต้องอยากเป็นนางแบบสิ”เธอตอบ “ได้สิ แต่บอกไว้ก่อนนะ ผมไม่ค่อยได้ถ่ายคน”เขาตอบ “ได้หมด ฉันแค่อยากลอง โซเชียลก็ไม่มี เก็บไว้ดูคนเดียวเอง”เธอตอบทำให้เขายิ้มออกมา

            ตากล้องมืออาชีพ กับนางแบบมือใหม่ ก็เริ่มออกไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ เผลอแปบเดียวก็หมดไปอีก1วัน “กินไรดีคุณ มือนี้ฉันเลี้ยงเอง”เธอถาม “ถ้าคุณจะเลี้ยงก็แล้วแต่คุณเลย”เขาตอบ “งั้นฉันจะพาไปร้านลับ นักท่องเที่ยว ไม่น่าจะรู้จักแต่รับรองอร่อยแน่”เธอนำเสนอ “เรื่องกินผมได้หมด”เขาตอบพร้อมกับยิ้ม



            ร้านที่เธอพาไปมันอยู่ลึกลับแต่ดูหรูหรามาก “อ้าวน้องแยมวันนี้พาใครมา”เจ้าของร้านกล่าวทักทาย “เพื่อนใหม่ค่ะพี่ พึ่งเจอกันเมื่อวาน”เธอกล่าวตอบ “สวัสดีครับ ผมตูนครับ”เขาแนะนำตัว “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก พี่แนนนะคะ อยากทานอะไรบอกเลย”เจ้าของร้านกล่าวแนะนำตัวเช่นกัน “เอาเหมือนที่มากินกับคนเก่าๆค่ะ”เธอรีบสั่งเหมือนตัดบท “โอเคนะคุณ”เขารีบถาม “ของอร่อย มันต้องกินคุณ เรื่องนี้ฉันไม่สนหรอกอุตส่าห์มีคนมาช่วยกิน”เธอตอบ ผ่านไปสักพักอาหารก็มาเต็มโต๊ะ จนไม่แน่ใจว่า คนสองคนจะกินหมด  “เราจะกินหมดใช่ไหมเนี่ยคุณ”เขาถาม “กินอย่างละนิดก็ได้ ไม่หมดก็ช่างมัน มันอร่อยทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะ”เธอตอบ “คนไม่ค่อยเยอะดี เนอะคุณ”เขาเริ่มชวนคุย  “นี่มันธรรมดา ลองศุกร์ เสาร์อาทิตย์คนเต็มร้าน”เธอตอบ “ก็สมควร ร้านเขาอร่อยจริง”เขาตอบ “ใช่มะ ถ้ามาเชียงใหม่ต้องแวะมา”เธอกล่าวเสริม “แล้วนี่คุณจะเขียนเรื่องใหม่เมื่อไร”เขาหาเรื่องคุย “ก็คงเร็วๆนี้ ต้องขอบคุณคุณที่ทำให้ฉันดีขึ้นมาเลย”เธอตอบ “ผมขอโทษนะ แต่ผมว่ามันคงไม่มีสภาพไหนแย่กว่าตอนที่ผมเจอคุณแล้วแหละ”เขาตอบ “ไม่เป็นไรๆ คุณทำให้ฉันสนุกมากเลยวันนี้”เธอกล่าว “แล้วคุณบรรลุเป้าหมายไหม ที่คุณบอกผมที่ตีนดอย”เขาถาม สีหน้าเธอดูหยุดคิดไปสักครู่ก่อนจะตอบ “ไม่นะ”เธอตอบ “ก็ น่าจะดีแล้ว”เขาตอบหลังจากใช้เวลาคิด “หืม คุณรู้เรื่องแล้ว”เธอตอบด้วยสีหน้าตกใจ “ผมพึ่งมั่นใจตอนคุณตอบเมื่อกี้นี้แหละ”เขาตอบ “เราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่าเนอะ”เธอรีบตัดบท “ผมเห็นด้วย”เขาตอบ ก่อนที่ทั้งสองคนจะยิ้มให้กัน

ณ สนามบิน

            “ไว้คุณมาเชียงใหม่โทรหาฉันนะ นี่เบอร์ฉัน”เธอกล่าวพร้อมกับยื่นกระดาษให้เขาใบหนึ่ง เขาหยิบมันใส่กระเป๋าโดยไม่สนใจว่าเธอเขียนอะไรไว้ เขานั่งเครื่องบินกลับไปโดยคิดในหัวตลอดเวลาว่า “ทำไมผู้หญิงสวยเก่งแบบเธอถึงถูกผู้ชายทิ้งได้นะ” เหมือนกันกับที่เธอคิดว่า”ทำไมผู้ชายแบบนี้ถึงโสดมา26ปี

 

3เดือนผ่านไป

            ในค่ำคืนหนึ่ง เขาได้ฝันไปว่าเขาเจอเธอกำลังไปที่ตีนดอยที่เดิมที่เคยเจอกัน ด้วยสีหน้าเดียวกับวันนั้นเขาสะดุ้งตื่นทันที เขารีบไปเปิดกระดาษที่เธอให้มา ด้านหลังเขียนชื่อเธอแบบไม่บรรจงนัก ด้านหน้าเป็นเบอร์โทรศัพท์เธอแต่มันหายไป4ตัว เขาร้อนรนพยายามคิดว่าจะทำอย่างไร จะลองโทรมันก็ต้องเกือบหมื่นเบอร์มันอาจจะสายไป เขาคิดไปออก ยกกระดาษขึ้นเหนือหัว พอดีกับที่แสงไฟในห้องส่องมาผ่านกระดาษ ไอ้ชื่อที่เขียนแบบหวัดๆ ถ้ามองผ่านกระดาษมันคือเบอร์สี่ตัวท้ายพอดี 7399 เขาแอบคิดในใจว่า”สมกับเป็นนักเขียนนิยายสืบสวน”

            เขารีบโทรหาเธอทันที โดยไม่สนใจเวลา ผ่านไป3รอบก็มีคนรับสาย “คุณเป็นใคร โทรมากวนฉันตอนหลังเที่ยงคืน”ปลายสายตอบ “คุณแยมใช่ไหมผมตูน”เขาตอบ “ใช่ แล้วคุณทำไมโทรมาตอนนี้”เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี “ใช่ๆ คนจะกลับไปที่ดอยใช่ไหม”เขาถามอย่างเร่งรีบ “ใช่ ฉันจะไปพรุ่งนี้ แต่ฉันแค่จะไปถ่ายรูปทำปกนิยาย คุณโทรมาพอดีเลย ฉันอยากคุยกับคุณพอดี นึกว่าจะแก้ไม่ออกซะแล้ว ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าฉันจะไป”เธอร่ายยาว แต่น้ำเสียงดีขึ้นชัดเจน “ผมฝัน และในฝันสีหน้าคุณมันเหมือนวันนั้น”เขาตอบมันทำให้เธอขำออกมา “ฉันไม่ทำแบบนั้นแล้ว ว่าแต่ตอนนั้นคุณรู้ได้ไงว่าฉันจะไปฆ่าตัวตาย”เธอถามโวยน้ำเสียงสงสัย “ก็คุณ ไม่เอาอาหารไป ไม่เอาเสื้อผ้าไป เหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าไม่ต้องใช้ บวกกับสีหน้าคุณอีก”เขาตอบ “คุณนี่ก็น่าจะเขียนนิยายได้เหมือนกันนะ 555”เธอตอบพร้อมกับขำ “เดี๋ยวคุณจะตกงานเอานะ”เขาตอบ “ขนาดนั้น ว่าแต่ฉันขอเสียมารยาทหน่อย ไหนคุณก็เสียมารยาทที่โทรมาตอนนี้แล้ว ทำไมคุณถึงโสดมาต้อง26ปี”เธอถาม “ผมกลัวจะทำให้ใครเป็นแบบคุณวันนั้น”เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณก็แค่ ไม่ทิ้งฉันก็พอ เอ้ยไม่ทิ้งเขาก็พอ ว่าแต่คุณจะมาเชียงใหม่อีกทีเมื่อไร”เธอตอบพร้อมกับถาม “พรุ่งนี้ก็ได้ถ้าคุณอยากได้ตากล้อง”เขาตอบ “ถ้าอย่างงั้นเจอกันค่ะ”เธอตอบพร้อมกับตัดสายไป

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น